ถ้าคุณเคยทานซูชิแล้วหละก็ เรามั่นใจว่าคุณต้องรู้จักวาซาบิสีเขียวที่ทานคู่กันเป็นแน่ แต่คุณรู้หรือไม่เขาปลูกวาซาบิกันอย่างไร วันนี้เราจะพาคุณไปชมไร่วาซาบิที่อยู่ทางเหนือของเมืองMatsumotoห่างขึ้นไปประมาณ 32 กิโลเมตร ไร่นี้มีพื้นที่ประมาณ94ไร่ มีอายุกว่า100ปี นับตั้งแต่เริ่มทำไร่นี้ในปี ค.ศ. 1915 ด้วยสภาพทางภูมิศาสตร์ที่เอื้ออำนวย มีแหล่งน้ำสะอาดไหลจากเทือกเขาแอล์ปญี่ปุ่นจึงทำให้กลายเป็นพื้นที่ที่เหมาะแก่การปลูกวาซาบิเป็นอย่างมาก
วาซาบิคือรากไม้รูปร่างตะปุ่มตะป่ำที่ค่อนข้างเจริญเติบโตยาก ถ้าใบของมันเสียหายก็จะทำให้กระบวนการเจริญเติบโตช้าลงไปด้วย นอกจากนี้ยังต้องคอยดูแลให้รากดูดซึมน้ำให้มากพอ กระบวนการเจริญเติบโตนี้จะกินเวลากว่า 3 ปี และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมวาซาบิถึงมีราคาแพง แต่สำหรับคนที่ตกหลุมรักวาซาบิแล้ว ไม่ว่าจะต้องรอนานขนาดไหนหรือเสียสตางค์มากเท่าไรก็คุ้มค่า
ในช่วงหน้าร้อนอันมีแสงแดดแรงเช่นนี้ เกษตรกรจะนำผ้ามาคลุมวาซาบิไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดทำลายใบวาซาบิ ที่ไร่วาซาบิ Daio จะรักษาระดับอุณหภูมิคงไว้ที่ 13 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี
ยังมีจุดที่น่าสนใจอีกที่คือเส้นทางธรรมชาติใกล้ๆกับไร่ที่คุณสามารถไปพักผ่อนสูดอากาศสดชื่นและผ่อนคลายไปกับแหล่งน้ำใสที่ไหลมาจากเทือกเขาแอล์ปญี่ปุ่นได้ นอกจากนี้ยังมีศาลเจ้า Daio ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไร่วาซาบิมากนัก ศาลเจ้าแห่งนี้มีที่สักการะวีรบุรุษในท้องที่นามว่า Hachimen Daio ดังนั้นไร่วาซาบินี้จึงนำชื่อของท่านมาตั้งเป็นชื่อไร่
วาซาบิที่เก็บเกี่ยวได้จากไร่จะถูกนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น ในร้านอาหารหรือซุ้มร้านค้าก็จะใช้วาซาบินี้เป็นส่วนผสมในการทำวาซาบิโซบะ ไอศกรีมวาซาบิ เป็นต้น ส่วนในร้านขายของฝากก็จะมีเบียร์วาซาบิ ช็อกโกแลตวาซาบิ ขนมปังกรอบวาซาบิ และผลิตภัณฑ์วาซาบิอื่นๆวางขายอีกด้วย
แวะมาลองชิมเมนูวาซาบิแบบนี้ได้ที่ไร่วาซาบิ Daio แล้วมาเติมความเผ็ดจี๊ดขึ้นจมูกที่นี่กัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีเดินทาง: นั่งแท็กซี่ 10 นาทีจากสถานีรถไฟ Hotaka (สาย JR Oito) หรือ ปั่นจักรยาน 15 นาที (สามารถเช่าได้ที่หน้าสถานีรถไฟ Hotaka ค่าเช่า 200 เยน/ ชั่วโมง)
ค่าเข้า: ฟรี
เวลาทำการ: 8:45น.- 17:30น. (เมษายน – ตุลาคม), 9:00น. – 16:30น. (พฤศจิกายน – มีนาคม)
URL: http://www.daiowasabi.co.jp/ (ภาษาญี่ปุ่น)