ท่าเรือมิซาก
ออกเดินทางกับ Misaki Maguro Day Trip Ticket สำหรับใครที่มาโตเกียวอยู่บ่อยๆ แล้วอยากชมธรรมชาติบ้าง ทานอาหารทะเลอร่อยๆ บ้าง ต้องลองมาเที่ยวที่ท่าเรือมิอุระ・มิซากิ ที่อยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมิอุระ ที่ท่าเรือมิซากิมีเมนูจากปลามากุโระมากมายใช้เลือกชิม แถมวิวมหาสมุทรให้ชมอย่างเพลินใจ ไม่เพียงแค่นี้ บนชายฝั่งมิอุระยังเป็นที่ตั้งของต้นคาวาสึซากุระและดอกนาโนะฮานะ เมื่อรถไฟวิ่งผ่านจะกลายเป็นวิวที่สวยเหมือนภาพวาด ครั้งนี้กองบรรณาธิการจะมาแนะนำเคล็ดลับว่าเที่ยวอย่างไรให้ประหยัด และยังสนุกได้สุดเหวี่ยง

ท่าเรือมิซากิตั้งอยู่ที่เมืองมิอุระ จังหวัดคานะกะวะ นั่งรถไฟจากตัวเมืองหรือชินากาวะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก็จะมาถึงแหล่งปลามากุโระ – ท่าเรือมิซากิ ก่อนหน้านั้นจะพบกับเกาะโจกะชิมะที่อยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมิอุระ ทางภูมิศาสตร์เกาะโจกะชิมะเป็นเขื่อนกันคลื่นทะเลโดยธรรมชาติ ประกอบกับปลาหลากหลายชนิดในบริเวณท่าเรือมิซากิ ที่นี่จึงเป็นหนึ่งในแหล่งที่จับปลามากุโระได้มากที่สุดในญี่ปุ่น เรียกได้ว่าถ้าแวะมาที่นี่แล้วไม่ได้ทานมากุโระก็เหมือนยังมาไม่ถึง

“Misaki Maguro Day Trip Ticket” ของรถไฟสาย Keikyu จะให้ทุกคนได้ออกนอกเมืองไปชิมอาหารอร่อยแถมยังสบายกระเป๋า เพราะไปเช้าเย็นกลับได้อย่างสะดวก ตั๋วสุดคุ้มใบนี้ประกอบไปด้วยตั๋วรถไฟ Keikyu ไป-กลับ, ตั๋วรถบัส Keikyu, ตั๋วมากุโระ-มังปุคุ และตั๋วมิอุระ・มิซากิ โอโมอิเดะ ตั๋ว Maguro-manpuku ให้สิทธิ์เราเลือกทานเมนูมากุโระ 1 ร้าน จากทั้งหมด 32 ร้าน ส่วนตั๋วมิอุระ・มิซากิ โอโมอิเดะ ก็ให้สิทธิพิเศษตามร้านค้ามากมาย หรือจะเลือกรับของที่ระลึกแทนก็ได้ แค่นี้ก็คุ้มสุดๆ แล้ว

เลือกเมนูมากุโระจานโปรด

เซ็ตมากุโระด้ง จากร้าน “Jogashima Shibuki-tei”
ร้าน “Misakikan Honten” เปิดให้บริการเป็นเรียวกังด้วย

ในญี่ปุ่นมีตั๋วพาสสำหรับรถไฟอยู่มากมายหลายแบบ แต่ตั๋วที่รวมมื้ออาหารฟรีอยู่ด้วยคงหาได้ไม่ง่ายนัก “Misaki Maguro Day Trip Ticket” มีจุดเด่นที่ไม่เหมือนใครคือ “ตั๋วมากุโระ-มังปุคุ” ที่ให้เราเลือกชิมเมนูปลามากุโระจากร้านอาหารที่ให้บริการทั้งหมด 32 ร้าน อย่างเมนู “จิซากานะด้ง (ข้าวหน้าปลาท้องถิ่น)” และ “โชนันคามะอาเกะชิราสึโซบะ (โซบะปลาชิราสึ)” จากร้าน “Kaiwaya” ที่อยู่ใกล้สถานีมิอุระไคกังก็อัดแน่นไปด้วยรสชาติแห่งมากุโระ ส่วนร้านอื่นๆ ก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกันออกไป “Misakikan Honten” ก็เปิดเป็นเรียวกังให้เข้าพัก และยังมีประวัติศาสตร์มากว่า 100 ปี ถ้าได้ไปเกาะโจกะชิเมะก็ต้องลองเมนูเซ็ตโจกะชิมะมากุโระที่ร้าน “Jogashima Shibuki-tei” นอกจากรสชาติที่ไม่ต้องพูดถึงแล้ว มองออกมานอกหน้าต่างยังได้เห็นทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิด้วย ถ้าได้ลองคุยกับคุณเจ้าของร้านรับรองว่าอาหารมื้อนี้จะยิ่งสนุกเข้าไปอีก

 
มากุโระจิซากานะด้ง & เซ็ตโชนันคามะอาเกะชิราสึโซบะ จากร้าน “Kaiwaya”
นั่งภายในร้านทานข้าวหน้าปลาแสนอร่อย

สำหรับใครที่อยากลิ้มรสปลามากุโระให้มากขึ้น ที่ “Urari Marché” จำหน่ายตั้งแต่อาหารทะเลสดใหม่ ผัก ขนมปัง และอื่นๆ ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือมิซากิ ให้ทุกคนได้ชิมรสชาติแห่งทะเลอย่างเต็มอิ่ม หรือจะมาซื้อของฝากก็เป็นไอเดียที่ดี

ชมความงามธรรมชาติบนเกาะโจกะชิมะ

เกาะโจกะชิมะตั้งอยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมิอุระ วิธีการเดินทางมีอยู่หลายทาง ครั้งนี้เราลองใช้ “ตั๋ว มิอุระ・มิซากิ โอโมอิเดะ” ในการขึ้นรถบัส “KEIKYU OPEN TOP BUS” ไปยังโจกะชิมะ ระหว่างทางได้ชมทิวทัศน์รอบๆ พลางฟังคำอธิบายจากไกด์ ถ้ามีเวลาเหลือเราอยากแนะนำให้ลองคอร์สปีนเขาจะได้ชื่นชมธรรมชาติให้ฉ่ำปอด โพรงหินที่โดนทะเลกัดเซาะ “Umanose-Domon” ก็ดูน่าเกรงขาม แสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมีสวนโจกะชิมะ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่ของนกอ้ายงั่วญี่ปุ่น ถ้ามองลงมาจากจุดชมวิวก็จะเห็นทั้งวิวฝูงนกและมหาสมุทรกว้างใหญ่ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ในสวนจะเต็มไปด้วยดอกยาเอะซุยเซ็นและดอกอาจิไซให้ผู้มาเยือนได้เยี่ยมชม

คาวาสึซากุระที่มีให้ชมแค่ฤดูใบไม้ผลิแรกเท่านั้น

ดอกคาวาสึซากุระจะเริ่มบานสะพรั่งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ และชายฝั่งมิอุระเป็นจุดชมที่เหมาะที่สุด ตลอดระยะทาง 1 กิโลเมตรตั้งแต่สถานีมิอุระไคกังไปจนถึงสวน Komatsugaike จะเรียงรายไปด้วยคาวาสึซากุระสีชมพูน่าเอ็นดู ผสมผสานกับดอกนาโนะฮานะสีเหลืองสดใส ตกกลางคืนไฟประดับจะส่องสว่างได้บรรยากาศโรแมนติก แต่ถ้าอยากได้ภาพที่ไม่เหมือนใคร ให้รอจังหวะดีๆ เมื่อรถไฟวิ่งผ่านก็กดชัตเตอร์เลย! เท่านี้ก็ออกมาเป็นภาพความทรงจำแห่งฤดูใบไม้ผลิที่หาไม่ได้ที่ไหน

ข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้งานของ
“Misaki Maguro Day Ticket”

Comments