เส้นทางยาว 2,400 กิโลเมตรที่ได้รับการกล่าวถึงในโอคุ โนะ โฮโซมิจิ ประกอบด้วยถนนสายต่างๆ ซึ่งนำทางสู่นิกโก้ โอชู เดวะ และโฮคุริคุ สองเส้นทางที่น่าสนใจกว่าใครเพื่อนคือโอชูและเดวเพราะทั้งคู่เต็มไปด้วยทัศนียภาพอันน่าทึ่งแล้วยังผ่านสามจังหวัดในภูมิภาคโทโฮคุ คือ มิยะงิ อิวะเตะ และยะมะงะตะ สถานที่ที่ไม่ควรพลาดการรับชมบนเส้นทางนี้ก็คือ เกาะ Matsushima อันเป็นหนึ่งในสามสุดยอดทิวทัศน์ในญี่ปุ่น ตามด้วยมรดกโลกที่ขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกอย่างฮิราอิซุมิ วัด Yamadera ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 1,100 ปี แม่น้ำ Mogamigawa ซึ่งไหลผ่าน เขตแดนทางตอนเหนือของจังหวัดยะมะงะตะ และคิตะคะตะจุดปลายสุดทางตอนเหนือของเส้นทางโอคุ โนะ โฮโซมิจิ
โชคดีที่เทคโนโลยีในปัจจุบันมีความเจริญก้าวหน้า เราจึงไม่ต้องพเนจรผ่านภูเขาและแม่นำ้าทั้งหลายเพื่อไปให้ถึงสถานที่เหล่านั้นเช่นเดียวกับมัตสึโอะ บะโช เราสามารถเข้าถึงสถานที่ทางประวัติศาสตร์และมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติข้างต้นที่เราสนใจโดยใช้ประโยชน์จากการคมนาคมสาธารณะอย่างมีประสิทธิภาพ
เท่าที่อ้างอิงจากบันทึกทางประวัติศาสตร์ มัตสึโอะ บะโช ออกเดินทางเมื่อวันที่ 27 มีนาคม (ยึดตามปฏิทินญี่ปุ่นโบราณ) จากเอโดะสู่ตอนเหนือของประเทศญี่ปุ่น เขา เดินทางด้วยเท้าเป็นหลักจึงไปถึงภูมิภาคโทโฮคุในสองเดือนให้หลังคือประมาณต้น ถึงกลางเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ฤดูใบไม้ผลิเพิ่งมาเยือนภูมิภาคนั้น แต่ คราวนี้เราออกเดินทางช่วงต้นเดือนพฤศจิกายนเพื่อตามรอยเขาในการแสวงหาสีสัน แห่งฤดูใบไม้ร่วงบนเส้นทางโอคุ โนะ โฮโซมิจิ
WHAT IS HAIKU?
ไฮกุคือกลอนขนาดสั้น เป็นบทกวีของญี่ปุ่นที่สั้นมาก มีเพียง 17 พยางค์เท่านั้น เดิมทีจะเขียนกลอนเป็นประโยคเดียวในแนวตั้ง แต่ปัจจุบันนี้มักจะแบ่งพยางค์ ออกเป็นสามบรรทัดคือ 5-7-5 โดยแบ่งวรรคตามพยางค์ (คิเระจิ) จะเต็มไปด้วย ความหมาย การแบ่งวรรคเช่นนี้ก็เพื่อวางเปรียบเทียบข้างกัน กลอนไฮกุต้องมี คิโกะ (คำแสดงฤดูกาล) ที่จะยิ่งสร้างสีสันให้แก่บทกวีและยึดมันไว้กับกาลเวลา มัตสึโอะ บะโชเป็นนักกวีไฮกุผู้มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในประเทศญี่ปุ่น เขามีชีวิตและแต่งกลอนในศตวรรษที่ 17 ช่วยกระดับไฮกุให้กลายเป็นบทกวีอันสูงส่ง