สภาพบรรยากาศของถนนสายนี้พาให้เรารู้สึกเหมือนย้อนเวลาไปสู่สมัยเอโดะ (ค.ศ. 1603-1868) สถานที่แห่งนี้คือ Narai Juku ตั้งอยู่ในจังหวัดนะงะโนะ ที่นี่เป็นสถานีที่ 34 ในจำนวนทั้งหมด 69 สถานีของถนนNakasendo ซึ่งเป็นถนนเก่าแก่หนึ่งห้าถนนที่เชื่อมระหว่างโตเกียวและเกียวโต ในสมัยก่อนอาจใช้เวลาเดินระหว่างทั้งสองจังหวัดนี้มากกว่า2อาทิตย์เลยทีเดียว ดังนั้นจึงมีสถานีไว้เพื่อไว้ให้เป็นจุดแวะพัก ด้วยความพยายามในการอนุรักษ์ถนน Narai Juku เส้นนี้ไว้ ทำให้สภาพของสถาปัตยกรรมและรายละเอียดต่างๆยังคงสมบูรณ์ รวมไปถึงก็เดินสายไฟที่เดินก็แอบไว้อย่างมิดชิด และยังห้ามนำรถเข้ามาระหว่างวัน จึงเป็นเสน่ห์ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลไปชมความงามกัน
ถนนสายNakasendoจะทอดยาวผ่านเส้นทางเดินเขาต่างๆ ส่วนถนนTokaido อันเป็นเส้นทางหลักที่นิยมกันจะยาวขนานไปกับชายฝั่งทะเล จุดที่น่าสนใจคือถนนแห่งนี้จะความโค้งเล็กน้อย ซึ่งเป็นเทคนิคการตัดถนนในสมัยก่อน เพื่อให้มองเห็นทางข้างหน้าได้อย่างชัดเจนมากขึ้น ซึ่งยังให้ผล
ของฝากขึ้นชื่อของ Narai Juku จะเป็นผลิตภัณฑ์จำพวกงานไม้ ซึ่งมีร้านขายมากมายตลอดทั้งถนนสายนี้ และยังมีรูปปั้นของพระแม่มารีแอบอยู่ในวัด Taihoji อีกด้วย เป็นรูปพระแม่มารีอุ้มพระบุตรและถือไม้กางเขน จริงๆแล้วในสมัยเอโดะ ศาสนาคริสต์ถือเป็นศาสนาต้องห้าม หากใครฝ่าฝืนจะถูกลงโทษหนัก ชาวคริสต์จึงต้องอาศัยอยู่อย่างหลบซ่อน กล่าวกันว่ารูปปั้นนี้ถูกค้นพบโดยขุนนางตระกูลTokugawa และเศียรของพระแม่ก็น่าจะถูกตัดไปในช่วงนั้น
ตึกและบ้านในแบบสถาปัตยกรรมสมัยเอโดะทำให้เมืองนี้คงบรรยากาศแบบโบราณไว้ จุดน่าสนใจสำหรับการสร้างบ้านแบบเอโดะคือ แม้ว่าตัวบ้านจะมี 2 ชั้น แต่กลับไม่มีใครอาศัยหรือใช้พื้นที่ชั้นบนเลย ในสมันก่อนที่ญี่ปุ่นจะมีระบบวรรณะชนชั้นที่เข้มงวดมาก ซามุไรจะเป็นชนชั้นบนสุดซึ่งสังกัดกับโชกุนโดยตรง เมื่อซามุไรผ่านมา ชาวบ้านจะขึ้นไปที่ระเบียงชั้น2เพื่อชื่นชม หากใครก็ตามที่พลาดไปจับดาบซามุไรหรือมองซามุไรอย่างไม่ถูกต้อง จะต้องโทษหนักหรือโทษถึงตายได้ซึ่งทำให้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก นอกจากผู้คนอาจใช้พื้นที่ชั้น 2 ของตัวบ้านเพื่อการอื่นๆเช่นกัน
เมื่อเดินผ่านถนนสายนี้มาประมาณครึ่งทาง คุณจะเห็นบ่อน้ำพุร้อนเล็กๆ เป็นน้ำที่ไหลมากจากภูเขาแอลป์ญี่ปุ่นและเป็นน้ำที่บริสุทธิ์รสชาติอร่อย แต่ไม่เหมาะสำหรับบริโภค ถนนNarai Jukuนี้ เป็นเส้นทางที่นั่งท่องเที่ยวมักมาหยุดแวะพักก่อนปีนเขาหรือหลังลงจากเขา ดังนั้นน้ำถือเป็นสิ่งสำคัญมากต่อการดับกระหายและเพิ่มพลังงานในการเดินทาง หากคุณได้เห็นรูปปั้นพระองค์เล็กที่เรียกว่า Jizo กว่า2000องค์ ซึ่งจะนำมาวางไว้ใกล้ๆหลุมศพของผู้เสียชีวิตที่ Nakasendo ดังนั้นคุณก็คงจะเข้าใจแล้วว่าเส้นทางขึ้นลงภูเขาแห่งนี้อันตราย
หากคุณอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศโบราณแบบสมัยยุคเอโดะ ถนนสายนี้แหละคือสถานที่ที่เหมาะที่สุดในการย้อนเวลากลับไปสู่อดีต สำหรับมาเที่ยว พักผ่อนที่นี่กัน
ข้อมูลเพิ่มเติม
วิธีเดินทาง: เดิน 3 นาทีจากสถานีรถไฟ Narai (สาย JR Chuo Main Line)
ที่ศูนย์ข้อมูลการท่องเที่ยวมีบริการแผนที่เป็นภาษาอังกฤษ