สำหรับใครที่ไปปราสาทฮิเมจิยอดฮิตมาแล้ว เราอยากบอกว่าที่ฮิเมจิยังมีที่ให้ไปค้นหาอีกมากมาย สำหรับการสำรวจญี่ปุ่นในแบบที่เราไม่เคยรู้จักครั้งนี้ เราจะเดินทางไปตามทะเลและภูเขา เริ่มต้นจาก1.เกาะอิเอชิมะแห่งทะเลเซโตะ ที่นี่มีประวัติศาสตร์และตำนานพิศวงที่ถูกเล่าขานกันมากว่า 1,300 ปี ภูติผี ปีศาจ หรือที่เรียกว่า “โยไก” อาจจะมีโอกาสได้เห็นกันจากวัฒนธรรมญี่ปุ่นในรูปแบบอื่นๆ เช่น โปเกมอนหรือโยไกวอทช์ แต่ที่เกาะอิเอชิมะแห่งนี้ได้ชื่อว่ามีภูติผีตัวจริงเสียงจริงสิงสถิตอยู่มาแต่ช้านาน มาเปิดโลกกว้างกับญี่ปุ่นในรูปแบบใหม่กันดีกว่า
*คลิกที่สถานที่แนะนำสีแดงเพื่
เมืองฮิเมจิ: เกาะอิเอชิมะ ที่ประทับแห่งเทพเจ้าโบราณ
การจะเดินทางไปยังเกาะอิเอชิมะนั้น ต้องอาศัยการนั่งเรือท้องถิ่นจากเกาะหนึ่งไปยังอีกเกาะหนึ่ง หรือที่เรียกว่า “Island Hopping” นั่งรถบัสจากสถานี JR Himeji ประมาณ 30 นาที จากท่าเรือฮิเมจิสู่เกาะอิเอชิมะคือระยะเวลา 20 นาทีบนเรือที่ล่องผ่านคลื่นอันสงบนิ่งของทะเลเซโตะ “อิเอชิมะ” หรือ “เกาะบ้าน” เป็นชื่อที่ถูกแต่งตั้งโดยจักรพรรดิจิมมุ กษัตริย์องค์แรกของญี่ปุ่นเมื่อ 2,600 ปีที่แล้วนั่นเอง นอกจาก2.ศาลเจ้าอิเอชิมะที่มีความเกี่ยวข้องกับจักรพรรดิจิมมุ ยังมี 3.ดงกะเมสซัง หินขนาดยักษ์ที่รูปร่างคล้ายเต่า และจุดอื่นๆที่น่าพิศวงอีกมากมาย รอบนอกของเกาะสามารถให้รถยนต์ผ่านได้ แต่ด้านในจะเป็นถนนที่แคบและสูงชันเสียสวนใหญ่ เนื่องจากเป็นเกาะจึงมีอาหารทะเลสดใหม่ให้เลือกชิมมากมายอีกด้วย
ฟุกุซากิ: เมืองแห่งภูติผี
ห่างจากเมืองฮิเมจิเพียง 15 กม. เป็นที่ตั้งของเมืองฟุกุซากิ เมืองที่มีภูติผีอาศัยอยู่อย่างเนืองแน่น ถ้าพูดถึงภูติผีในตำนานญี่ปุ่นก็คงหนีไม่พ้น “กัปปะ” ผู้ที่เล่าขานเรื่องกัปปะให้โด่งดังไปทั่วประเทศก็คือ “ยานากิตะ คุนิโอะ” นักวิชาการทางประเพณีพื้นบ้าน ผู้มีบ้านเกิดอยู่ที่นี่นั่นเอง เขาคือผู้เขียนหนังสือที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับภูติผีปีศาจเข้าไว้ด้วยกัน ด้วยเหตุนี้จึงมีภูติผีในเมืองฟุกุซากิยั้วเยี้ยเต็มไปหมด ไหนจะเรื่องเล่าที่ว่ามีกัปปะโผล่ขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยจากบ่อน้ำใน 5.สวนทสึจิกาวะยามะอีกด้วย ระหว่างทางจากสถานีไปที่สวนจะมีม้านั่งอยู่ 9 ตัว แน่นอนว่ามีภูติผีนั่งรออยู่ด้วย ที่พิเศษคือเหล่าภูติผีที่มีหน้าตาห่างไกลจากคำว่าน่ารักอยู่มากโข รูปลักษณ์ที่เสมือนจริงจนน่าขนหัวลุกทำให้เป็นจุดถ่ายรูปที่นิยมกันอย่างมาก สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของที่นี่เพิ่มเติม สามารถไปที่ [6.บ้านยานากิตะ คุนิโอะ] หรือ [Kanzaki County Museum of History and Folklore]
เส้นโมจิมุกิ
จะว่าเหมือนอุด้งก็ไม่ใช่ จะว่าเหมือนโซบะก็ไม่ใช่ เส้นโมจิมุกินี้มีรสสัมผัสไม่เหมือนใคร เป็นอาหารท้องถิ่นของที่นี่ ณ 7.Mochimugi no Yakata แห่งนี้เราจะได้ลิ้มลองเมนูเส้นโมจิมุกิหลากหลายแบบซึ่งผลิตในฟุกุซากินี่เอง
- ที่อยู่: 4-1022 Nishitawara, Fukusaki-cho, Kanzaki-gun, Hyogo-ken
อิชิกาวะ: ป่าอันเงียบสงบและภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์
ที่นี่มี 8.ภูเขาคาสะกาตะ หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “ฮาริมะฟูจิ” ภูเขาไฟฟูจิถือเป็นภูเขาที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับคนญี่ปุ่น แต่ที่นี่ก็มี 9.ศาลเจ้าคาสะกาตะซึ่งมีประวัติศาสตร์ถึง 1,300 ปีเช่นกัน ถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์กันมาตั้งแต่สมัยก่อน จากทางเข้าที่เรียงรายด้วยเสาโทริอิไปจนถึงตัวศาลเจ้าต้องใช้เวลาเดินเท้าถึง 1 ชั่วโมง แม้จะต้องเดินค่อนข้างไกล แต่รางวัลที่ทุกคนจะได้รับคือความงดงามของประติมากรรมและการแกะสลักของศาลเจ้าแห่งนี้ ประติมากรรมอันไร้ที่ติทำให้นึกถึงศาลเจ้านิกโกโทโช หลักจากผ่านเส้นทางอันสูงชันแล้ว เราจะพบกับศาลเจ้าที่ขนาบข้างด้วยต้นซีดาร์หนาแน่น ให้บรรยากาศสงบเงียบและศักดิ์สิทธิ์อย่างแท้จริง
น้ำตกความสูง 35 เมตรแห่งนี้เต็มไปด้วยตำนาน ในสมัยเอโดะ ไดเมียวหรือผู้ครองแคว้นฮิเมจิได้มีคำสั่งให้เกษตรกร 1,000 คนสักการะต่อน้ำตกแห่งนี้เพื่อขอฝน จึงเป็นที่มาของชื่อ “Sennin”(1,000 คน) หรือมีอีกตำนานเก่าแก่ที่ว่าชื่อนี้ได้มาจากการที่มี “Sennin”(ปีศาจเท็งงุ) อาศัยอยู่
- ที่อยู่: Kamiushio, Ichikawa-cho, Kanzaki-gun, Hyogo-ken
คามิกาวะ: น้ำอันเลื่องชื่อที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา
ว่ากันว่ากัปปะจะชื่นชอบน้ำบริสุทธิ์เป็นพิเศษ นั่นหมายความว่า ที่ไหนมีกัปปะ ที่นั่นมีน้ำสะอาดและอุดมสมบูรณ์นั่นเอง คามิกาวะเป็นที่รู้จักด้วยแหล่งน้ำ 5 แห่ง และน้ำตกอีก 5 แห่ง ที่มีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ เช่น น้ำตกเฮนเมียว เมื่อถึงฤดูหนาวจัด น้ำตกที่มีความสูงถึง 65 เมตรจะถูกแช่แข็ง กลายเป็นน้ำแข็งย้อยที่ส่องประกายระยิบระยับ หรือในฤดูร้อน ทางน้ำภายในเมืองจะถูกปกคลุมด้วยดอกไบคาโมะซึ่งมีสีขาวสะอาดคล้ายดอกบ๊วย จึงมีแหล่งน้ำอันงดงามหลากหลายแบบให้เลือกชม แนะนำให้ปั่นจักรยานเพื่อเดินทางไปดูทิวทัศน์เหล่านี้กัน จาก 11.หมู่บ้านชินเด็นฟุรุซาโตะซึ่งอยู่บนภูเขาด้านเหนือของเมือง มีธรรมชาติคอยอยู่ให้เราได้ชมผ่านทางจักรยานโอจิกาวะเมซุย
*คลิกที่มุมซ้ายของแผนที่เพื่อดู