เบื่อสถานที่ท่องเที่ยวในโตเกียวกันแล้วหรือยัง หากคุณอยากหนีจากความวุ่นวายในโตเกียว คาวาโกเอะเป็นอีกตัวเลือกที่ดี เดินทางจากสถานีIkebukuro 35 นาที ก็จะได้สัมผัสกับญี่ปุ่นในสมัย 150 ปีก่อน คาวาโกเอะยังคงรักษาสิ่งปลูกสร้างในสมัยเอโดะเอาไว้ ทำให้รู้สึกกลิ่นอายแบบโบราณ จึงเรียกที่นี่ว่า “โคะเอโดะ” ที่นี่นอกจากจะมีร้านที่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปีแล้ว ยังมีร้านที่มีเอกลักษณ์ที่พึ่งตั้งใหม่ด้วย จึงเป็นเมืองที่ผสานอดีตและปัจจุบันเอาไว้ด้วยกัน เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ตั๋ว Kawagoe discount pass premium ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใช้เดินทางไปคาวาโกเอะ
หากคุณหลงใหลการท่องเที่ยวญี่ปุ่น ต้องไม่พลาดตั๋วเดินทางสุดคุ้ม “ตั้วKawagoe discount pass premium” และ “ตั๋วKawagoe discount pass” ที่Tobu Railwayให้บริการ สามารถใช้เดินทางไปกลับระหว่างสถานีIkebukuroและสถานีKawagoe ในราคาพิเศษ และยังสามารถใช้เป็นส่วนลดร้านค้าในคาวาโกเอะได้ด้วย
“ตั๋วKawagoe discount pass premium” สามารถใช้ขึ้นรถบัสTobuในพื้นที่ที่กำหนด ในราคา 950 เยน นอกจากนี้ยังให้เป็นส่วนลดในการท่องเที่ยวคาวาโกเอะได้ด้วย
สามารถซื้อตั๋วได้ที่ทางออกcentral หมายเลข1 ของรถไฟสายTobu Tojo ตั๋วออกแบบเป็นรูปเสื้อฮัปปิที่ใส่ในเทศกาล เหมาะแก่การเก็บเป็นระลึก
ฤดูหนาวในญี่ปุ่นมักจะเริ่มมืดตั้งแต่ 4 โมงเย็น ดังนั้นหากออกเดินทางแต่เช้า ก็จะสามารถเที่ยวได้มากกว่า วันนี้เราจึงตื่นแต่เช้าเพื่อมาขึ้นรถไฟที่ออกจากสถานีIkebukuro เวลา 8 โมง ขบวนนี้มุ่งหน้าไปยัง Ogawamachi แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาเร่งรีบในตอนเช้า แต่รถไฟก็ไม่ได้แน่นเหมือนสาย Yamanote ภายในขบวนรถไฟก็สะดวกสบาย ทั้งที่นั่งที่กว้างขวาง
เมื่อถึงสถานี Kawagoe เราก็ขึ้นรถบัสตรงไปยังคาวาโกเอะ โดยขึ้นจากประตูด้านหลัง เวลาลงให้แสดง“ตั๋วKawagoe discount pass premium” ให้คนขับดู
ลงรถบัสที่ป้าย Otemachi แล้วเลี้ยงไปทางซ้ายจะเห็นหอนาฬิกา Toki-No-Kane อันเลื่องชื่อ
การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมและศิลปะที่คาวาโกเอะเริ่มขึ้นที่หอนาฬิกา Toki-No-Kane
จุดท่องเที่ยว 1: แปลงกายในชุดกิโมโนให้เข้ากับเมืองเก่า
หากเดินทางไปคาวาโกเอะ ก็ต้องไม่พลาดการแต่งชุดกิโมโน ใส่ชุดกิโมโนเดินเที่ยวเมืองโบราณ ราวกับว่าหลุดเข้าไปในละครย้อนยุค และยังได้ถ่ายรูปกิโมโนกับบรรยากาศบนถนนสายนี้ด้วย
ครั้งนี้เราจองร้านเช่าชุดกิโมโน Coedo Vivianไว้ ซึ่งเป็นร้านที่มีประวัติยาวนานที่สุดในคาวาโกเอะ ทางร้านบริการใส่ชุด ทำผมให้ในราคา 2,160 เยน สามารถเช่าชุดได้ตลอดทั้งวันตั้งแต่ 10.00น. -17.00น. เป็นบริการที่คุ้มค่ามากๆ
หอนาฬิกา Toki-No-Kane ได้มีการปรับปรุงเพื่อให้ทนต่อแรงสั่นไหวของแผ่นดินไหว ซึ่งเสร็จเมื่อเดือนมกราคม 2017
เราเดินจากหอนาฬิกาToki-No-Kaneไปยังถนน Ichibangai ก็พบกับสิ่งปลูกสร้างแบบโบราณ หลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในสมัยเอโดะ สิ่งปลูกสร้างที่นี่ก็ได้รับการปรับปรุ่งให้เป็นอาคารกันไฟ ซึ่งมาอายุกว่า 150 ปีแล้ว ที่นี่จึงได้รับการขึ้นทะเบียนจากรัฐบาลญี่ปุ่นให้เป็นเขตสิ่งปลูกสร้างทางวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติ
ช่วงหลังมานี้ ที่ญี่ปุ่นมีกระแสที่ว่าให้คงสิ่งปลูกสร้างสมัยเก่า แต่ปรับให้เข้ากับสมัยใหม่ เช่น นำสิ่งปลูกสร้างโบราณมาปรับให้เป็นร้านค้าจิปาถะ คาเฟ่ เป็นต้น หากมองแค่ภายนอก ก็จะไม่รู้เลยว่าเป็นร้านอะไร จนกระทั้งเข้าไปใกล้ๆถึงรู้ว่าเป็นร้านค้าจิปาถะ ทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้มีความตื่นเต้นมากขึ้น
หากสังเกตดีๆจะพกว่ามีสิ่งปลูกสร้างสมัยเมจิและโชวะปนอยู่ด้วย จะมีกลิ่นอายแบบตะวันตก ซึ่งเข้ากับบรรยากาศสมัยเก่าแบบญี่ปุ่นได้อย่างไม่มีที่ติ
เมื่อเดินเที่ยวจนเหนื่อยแล้ว ก็มาพักทานขนมกัน ร้านKameya เป็นร้านเก่าแก่กว่า 230 ปี และสาขาหลักก็ตั้งอยู่ที่ถนนIchibangai ที่สาขาMotomachiจะมีขนมโดรายากิรูปเต่าซึ่งจำหน่ายที่สาขานี้ที่เดียว รูปลักษณ์ภายนอกก็น่ารัก แถมยังมีไส้ถั่วแดง เกาลัด มันเทศ ให้เลือกด้วย เราจึงลองซื้อไส้มันเทศมานั่งทานที่หน้าร้าน ได้บรรยากาศมากๆ
จุดท่องเที่ยว 2: ลิ้มรสอาหารนานาชนิดจากมันเทศ
หากไปที่คาวาโกเอะก็ต้องไม่พลาดลิ้มรสขนมมันเทศนานาชนิดที่วางขายตามท้องถนน รวมไปถึงร้านอาหารก็ทำอาหารจากมันเทศในหลายเมนูเช่นกัน จริงๆแล้วในสมัยเอโดะ บริเวณนี้เป็นย่านค้าขายที่รุ่งเรือง จึงเป็นจุดศูนย์กลางในการเดินทางทางน้ำ เมื่อการเดินทางทางน้ำเจริญขึ้น มันเทศที่นี่ก็อุดมสมบูรณ์มากขึ้นจนกลายมาเป็นของขึ้นชื่อของที่นี่
เช่นที่ร้าน Torokko จะเสิร์ฟอาหารชุดมันเทศแบบมินิ ไคเซกิ ในนั้นจะประกอบไปด้วยอาหาร 10 อย่าง เช่น ข้าวมันเทศ เต้าหูกวนกับมันเทศ มันเทศทอดกับไชเท้า อุด้งกับมันเทศอบ และโครเกต์มันเทศ ซึ่งอาหารทุกจานล้วนปรุงจากมันเทศทั้งสิ้น การนำมันเทศซึ่งดูเป็นวัตถุดิบธรรมดา มาปรุงอาหารได้หลากหลาย และยังมีรสชาติไม่ซ้ำใครเช่นนี้ เป็นเรื่องน่าอัศจรรย์มาก อย่าลืมแสดง “ตั๋ว Kawagoe discount pass premium” เพื่อรับส่วนลด 5% เมื่อชำระเงิน ซึ่งจะทำให้คุณอิ่มเอมกับอาหารชุดไคเซกิมากขึ้น เนื่องจากเป็นเมนูขึ้นชื่อ ขอแนะนำให้โทรหรือีเมล์จองล่วงหน้า 3 วัน
ถัดจากบริเวณร้านอาหาร จะมีเวิร์คช็อปภาชนะดินเผาอยู่ สังเกตจากผนังสีขาวและกระเบื้องสีดำของตึกแบบโบราณ หากมีเวลาก็สามารถลองทำภาชนะดินเผาดูได้
จุดท่องเที่ยว 3: ตามหารสชาติอันชวนคิดถึง
เมื่อเดินจากถนนIchibangai จะเจอตรอกขายขนม (Kashiya Yokocho) จะมีร้านเล็กๆแบบโบราณ สามารถตามหาขนมและของเล่นสมัยเด็กๆได้ที่นี่
ที่นี่สามารถชมช่างฝีมือด้านการทำลูกอมแบบญี่ปุ่น จะใช้มิซุอาเมะ (ลูกอมญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง) ทำเป็นรูปการ์ตูนหลากหลายชนิด
เมื่อเข้ามายังตรอกขายขนม ก็จะเจอร้านสีชมพูที่ชวนให้อยากเข้าไปดู ข้างในมีขนมหลากหลายที่คนญี่ปุ่นเคยรับประทานเมื่อยังเป็นเด็ก
เช่น ลูกอมนกหวีด ลูกอมเป๊าะแป๊ะ ลูกอมโคล่า เยลลี่ เป็นต้น ที่ร้านนี้มีขนมครบทุกอย่าง แม้ว่าจะเป็นของเล่นโบราณที่หาซื้อยาก ก็มีขายที่นี่
ภายในตรอกขนม มีร้าน Tamariki ที่มีประวัติยาวนานกว่าร้อยปี เมื่อเข้าไปในร้าน ก็เห็นกลุ่มนักเรียนประถมกำลังถือลูกอมเตรียมซื้อกันอย่างตื่นเต้น เป็นภาพที่น่ารักมาก
ในร้านเต็มไปด้วยลูกอมแฮนด์เมดหลากสี มีสินค้าที่ขึ้นชื่อคือ ลูกอมที่ใช้น้ำตาลดำจากโอกินาวะในการทำ ซึ่งมีมากว่าร้อยปีแล้ว
ร้าน Inabaya Honpo มีชื่อเสียงด้านโดนัทมันเทศทำมือ นอกจากนี้ยังมีขนมมันจูทำจากมันม่วง และขนมโยกังมันเทศขายด้วย
จุดท่องเที่ยว 4: ความอร่อยแบบผสมผสานของศาลเจ้าและคาเฟ่
ศาลเจ้า Kawagoe Hikawa เป็นศาลเจ้าที่โด่งดังเรื่องความรัก ที่นี่ยังมีคาเฟ่ Musubi ถัดจากบริเวณศาลเจ้าด้วย วัตถุดิบบางอย่างของที่นี่ จะผ่านการทำพิธีก่อน จึงทำให้ทุกคำที่ทานจะสัมผัสได้ถึงพลังของเทพเจ้า
ที่นี่เสิร์ฟชุดอาหารและของหวาน โดยของหวานทุกจานล้วนน่ารักทั้งสิ้น เนื่องจากศาลเจ้านี้โดงดังเรื่องความรัก ที่คาเฟ่จึงมีมูสเค้กเบอร์รี่ที่ประดับด้วย มาการอง เบอร์รี่และไวท์ช็อกโกแลต ให้ความรู้สึกเหมือนเครื่องประดับผมของเจ้าสาว น่ารักเสียจนไม่กล้าทานเลย ความเปรี้ยวของเบอร์รี่และไวท์ช็อกโกแลตก็เข้ากันได้อย่างลงตัว เมื่อทานเข้าไปจะสัมผัสถึงชั้นเค้กและส่วนผสมนานาชนิด เค้กและชาสักแก้วนี้จะช่วยทำให้ร่างกายคุณอุ่นขึ้นได้
หลังจากสักการะเทพเจ้าและอิ่มเอมกับของหวานเรียบร้อยแล้ว ก็น่าจะทำให้มีดวงความรักเพิ่มขึ้นมาบ้าง
เมื่อมาที่ศาลเจ้าKawagoe Hikawa ก็พลาดไม่ได้ที่จะตกเสียมซีรูปปลา เพื่อเสี่ยงทายความรัก
จุดท่องเที่ยว 5: บรรยากาศระยิบระยับของTaisho-Roman ยามค่ำคืน
เรากำลังมุ่งหน้าไปที่ถนนTaisho-Roman เป็นมีสิ่งปลูกสร้างสมัยไทโชหลงเหลืออยู่จำนวนมาก จึงตั้งชื่อตาม สิ่งปลูกสร้างและป้ายร้านล้วนเป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตก เมื่อเปิดไฟและไฟประดับตอนค่ำคืน จึงทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนของคาวาโกเอะสว่างไสวขึ้นมา
ร้านค้าส่วนใหญ่บนถนนTaisho-Roman เริ่มทะยอยกันปิด แต่ยังโชคดีที่เราผ่านไปเจอร้านขนมญี่ปุ่นที่ยังเปิดอยู่ ก็ต้องเข้าไปลิ้มรสขนมกันสักหน่อยในฐานะตัวจริงเรื่องกิน
ขนมโยกังมันเทศและดังโงะย่าง แม้ว่าจะมีรูปลักษณ์ที่ธรรมดา แต่เป็นรสชาติที่ทรงเสน่ห์มาตั้งแต่สมัยอดีต เมื่อเติมพลังเต็มที่แล้ว ก็ขึ้นรถบัสแล้วเดินทางกลับไปยังสถานีKawagoeกัน
การท่องเที่ยวที่คาวาโกเอะครั้งนี้ทำให้ได้สร้างความทรงจำที่ดี คาวาโกเอะเป็นเมืองที่คงเอกลักษณ์ในอดีตผสมผสานกับปัจจุบันไวด้วยกัน ไม่ว่าจะเลาะเลี้ยวเข้าซอยไหนก็พบสิ่งแปลกตาเสมอ ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบบรรยากาศเก่าๆของญี่ปุ่น ชีวิตที่เรียบง่าย และตึกโบราณ รับรองว่าคุณจะต้องตกหลุมรักคาวาโกเอะเหมือนอย่างที่เราเป็นอยู่แน่
ข้อมูลเพิ่มเติม
การเดินทางไปคาวาโกเอะ
http://www.tobujapantrip.com/th/area/ikebukuro_kawagoe/access.html
ข้อมูลตั๋วและส่วนลดตั๋วพาส
http://www.tobu.co.jp/foreign/tojo/th/discount/
ข้อมูลเส้นทางรถบัสTobu
http://www.tobu-bus.com/en/kawagoe/
Café Torocco
http://touho-yamawa.co.jp/en-us/