0
ฮาโกะดาเตะ (Hakodate)
เมื่อเดินทางถึงสนามบินฮาโกะดาเตะ เราก็รับรถเช่า การเช่ารถวันนั้นเลยมีความเป็นไปได้ว่าจะมีคนจองเต็มหมดแล้ว ฉะนั้นจองมาก่อนล่วงหน้าจะดีกว่า เราขับรถจาก สนามบินฮาโกะดาเตะเป็นเวลา 30 นาที เพื่อไปท่องเที่ยวในเมืองฮาโกะดาเตะ มีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่ 3 แห่งในฮาโกะดาเตะที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ สวนโกเรียวกาคุ ทิวทัศน์ยามราตรีของฮาโกะดาเตะ และตลาดเช้าฮาโกะดาเตะ เดินทางมาถึงสนามบินฮาโกะดาเตะเมื่อไร ขอแนะนำให้ท่องเที่ยวฮาโกะดาเตะกันก่อนเลย
สวนโกเรียวกาคุ (Goryokaku Park)
ที่นี่คือฐานที่มั่นซึ่งสร้างเป็นรูปดาวห้าแฉกสไตล์ฝรั่งเศสเป็นแห่งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 1866 ทุกหนทุกแห่งภายในสวนยังมีปืนใหญ่และคูน้ำหลงเหลืออยู่ ดังนั้น เวลาเดินเล่นภายในสวน เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับสภาพการณ์ในสมัยนั้น ความโดดเด่นของที่นี่คือรูปร่างที่เป็นดาว 5 แฉก มารับชมดาวห้าแฉกจากจุดชมวิวบนโกเรียวกาคุทาวเวอร์ (Goryokaku Tower) กันเถอะ
ที่อยู่: 44 Goryokaku-cho, Hakodate-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 5:00 – 19:00 น. (เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เปิดทำการถึง 18:00 น.)
การเดินทาง: เดิน 15 นาที จากสถานี Goryokaku Koen Mae (รถราง)
ทิวทัศน์ยามราตรีของฮาโกะดาเตะ
ทิวทัศน์ยามราตรีจากจุดชมวิวบนยอดฮาโกะดาเตะซึ่งตั้งอยู่ที่ระดับความสูง 334 เมตรเหนือพื้นดิน ดูราวกับอัญมณีเปล่งประกายระยิบระยับ ในญี่ปุ่นรับชมทัศนียภาพของทะเลที่ขนาบสองฝั่งได้เฉพาะที่นี่ จนถึงกับได้คะแนนอันดับหนึ่งว่าเป็นทิวทัศน์ยามราตรีที่น่าประทับใจที่สุดในแบบสอบถาม (JTB) ทัศนียภาพตอนกลางคืนจะเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ฉะนั้นต่อให้มากี่ครั้งก็ยังรู้สึกว่างดงาม
ที่อยู่: Mt. Hakodate, Hakodate-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 10:00 – 22:00 น. (วันที่ 16 ตุลาคมถึง 24 เมษายน เปิดทำการถึง 21:00 น.)
การเดินทาง: เดินทาง 3 นาที โดยกระเช้าลอยฟ้าจากสถานี Sanroku
ตลาดเช้าฮาโกะดาเตะ
ตลาดเช้าฮาโกะดาเตะเริ่มเปิดให้บริการเมื่อปี 1945 ในฐานะตลาดมืด ปัจจุบันนี้คับคั่งไปด้วยผู้คนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ร้านค้ามีจำนวนประมาณ 250 แห่งนี้ นอกจากจะจำหน่ายปลาสด ผลไม้ และผักแล้ว ยังมีศูนย์อาหารให้รับประทานข้าวหน้าอาหารทะเล ซูชิ
ราเม็ง และอื่นๆ ได้อีกด้วย ตลาดจะคึกคักที่สุดช่วง 8 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้า ขอแนะนำให้มารับประทานมื้อเช้าที่นี่
ที่อยู่: 9-19 Wakamatsu-cho, Hakodate-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 5:00 – 14:00 น. (ขึ้นกับร้าน)
การเดินทาง: อยู่ติดกับสถานี JR Hakodate
โนโบริเบ็ทสึ (Noboribetsu)
ตั้งอยู่ห่างจากฮาโกะดาเตะประมาณ 220 กิโลเมตร และห่างจากซัปโปโรประมาณ 120 กิโลเมตร มีชื่อเสียงในฐานะบ่อน้ำพุร้อนชั้นนำในระดับประเทศ จึงมีผู้คนมาใช้บริการมากมายทุกปี นอกจากบ่อน้ำพุร้อนแล้วก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรแวะไปให้ได้ คือ หุบเขา Jigokudani, Oyunuma River Natural Footbath, Noboribetsu Marine Park Nixe และหมู่บ้าน Noboribetsu Date Jidaimura เราไปเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวที่หาพบได้เฉพาะในย่านบ่อน้ำพุร้อนกันดีกว่า!!
หุบเขาจิโกะคุดานิ (Jigokudani)
การระเบิดของภูเขาไฟเมื่อราว 1 หมื่นปีที่แล้วได้ให้กำเนิดร่องรอยของปล่องภูเขาไฟจากการระเบิด ทัศนียภาพยามที่น้ำเดือดขึ้นมานั้นเป็นที่มาของฉายา “ขุมนรกที่มีปีศาจสิงสถิต” และนับจากนั้นคนก็เรียกที่นี่กันว่า “หุบเขานรก Jigokudani” นอกจากนี้ น้ำพุร้อนหลากหลายประเภทยังไหลพุ่งวันละ 1 หมื่นตันจากหุบเขาแห่งนี้ จึงเป็นแหล่งน้ำร้อนสำหรับย่านบ่อน้ำพุร้อน โรงแรม และเรียวกังในบริเวณใกล้เคียง
ที่อยู่: Noboribetsu Onsen-cho, Noboribetsu-shi, Hokkaido
ค่าเข้า: ฟรี! ทัศนาจรได้ตามอิสระ
บ่อแช่เท้าโอยุนุมะ (Oyunuma River Natural Footbath)
สามารถเพลิดเพลินกับบ่อแช่เท้าตามธรรมชาติตรงบ่อน้ำพุร้อนที่หลั่งไหลจากโอยุนุมะ ในบริเวณนี้มีม้านั่งที่ทำจากไม้วางอยู่ด้วย มานั่งแช่น้ำในป่าท่ามกลางธรรมชาติเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากการเดินเล่นกันหน่อยไหม?
ที่อยู่: Noboribetsu Onsen-cho, Noboribetsu-shi, Hokkaido
ค่าเข้า: ฟรี! ทัศนาจรได้ตามอิสระ
การเดินทาง: เดิน 20 นาที จาก Noboribetsu Onsen Bus Terminal
หมู่บ้านโนโบริเบ็ทสึ ดาเตะ จิไดมูระ (Noboribetsu Date Jidaimura)
สวนสนุกที่จำลองภูมิทัศน์เมืองในยุคเอโดะเมื่อประมาณ 400 ปีก่อน ช่วยให้เราได้สัมผัสถึงวัฒนธรรมและขนบธรรมเนียมในสมัยเอโดะ เราเปลี่ยนไปใส่ชุดนินจาและท้าทายกับการฝึกนินจาขนานแท้ นอกจากการได้ลองเล่นเป็นนินจาแล้ว ยังมีเรื่องสนุกอีกมากมายให้เราได้ย้อนเวลากลับไป เช่น โชว์นินจาและโชว์โออิรัน!
ที่อยู่: 53-1 Nakanoboribetsu-cho, Noboribetsu-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น. (เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เปิดถึง 16:00 น.)
ค่าเข้า: 2,900 เยน (นักเรียนมัธยมต้นเป็นต้นไป), 1,500 เยน (นักเรียนประถม), 600 เยน (เด็กอายุ 4 ปีจนถึงก่อนวัยเรียน)
การเดินทาง: เดินทาง 8 นาที โดยรถบัสจากสถานี JR Noboribetsu
เว็บไซต์: http://edo-trip.jp/th/
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ (Noboribetsu Marine Park Nixe)
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ใช้ธีม “ความโรแมนซ์ของยุโรปเหนือและแฟนตาซีแห่งมหาสมุทร” มีโชว์ให้เพลิดเพลินเต็มอิ่ม เช่น โชว์สิงโตทะเลและโชว์โลมา โชว์ “ตู้ปลาทางช้างเผือก” ที่มีปลากว่าหมื่นตัวแหวกว่ายดูราวกับโลกแห่งเวทมนตร์ “พาเหรดเพนกวิน” ตรงลานกว้างก็ได้รับความนิยมมากเช่นกัน
ที่อยู่: 1-22 Noboribetsu Higashi-cho, Noboribetsu-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น. (เปิดให้เข้าถึง 16:30 น.)
ค่าเข้า: 2,450 เยน (นักเรียนมัธยมต้นเป็นต้นไป), 1,250 เยน (เด็กอายุ 4 ปีจนถึงนักเรียนประถม), ฟรี (สำหรับเด็กอายุ 3 ปีหรือต่ำกว่า)
การเดินทาง: เดินประมาณ 5 นาที จากสถานี JR Noboribetsu
ซัปโปโร (Sapporo)
เมื่อกล่าวถึงศูนย์กลางของฮอกไกโด อย่างไรก็ไม่พ้น “ซัปโปโร” เมืองนี้พรั่งพร้อมไปด้วยเสน่ห์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือว่าอาหารการกิน! สถานที่ท่องเที่ยวที่ขอแนะนำคือ ศาลาว่าการเก่าเมืองฮอกไกโด, Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill และ Mt. Moiwa มาหาประสบการณ์ในซัปโปโรกันให้เต็มที่ไปเลย
ศาลาว่าการเก่าเมืองฮอกไกโด
ศาลาว่าการเก่าเมืองฮอกไกโดเป็นสัญลักษณ์แห่งยุคบุกเบิกที่ค้ำจุนการปกครองในฮอกไกโดมาเป็นเวลาราว 80 ปี เป็นอาคารที่ก่อสร้างขึ้นด้วยอิฐสีแดงในสไตล์อเมริกาและช่วยให้เราได้สัมผัสประวัติศาสตร์การบุกเบิก เล่ากันว่ากำแพงสร้างด้วยอิฐประมาณ 2 ล้าน 5 แสนก้อน รอบๆ สิ่งปลูกสร้างปลูกพืชไว้หลากหลายพันธุ์ โถงด้านหน้ามีประตูโค้งเรียงติดกันสามโค้ง ขอเชิญมาชมความงดงามของการตกแต่งตรงกึ่งกลางประตูโค้งและลวดลายวงกลมที่สลักอยู่ด้านข้างบันได
ที่อยู่: Kita 3-jo Nishi 6-chome, Chuo-ku, Sapporo-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 8:45 – 18:00 น. (เดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เปิดถึง 16:00 น.)
ค่าเข้า: ฟรี
การเดินทาง: เดิน 7 นาที จากทางออกทิศใต้ สถานี JR Sapporo
Sapporo Hitsujigaoka Observation Hill
จุดชมวิวที่สร้างขึ้นเมื่อปี 1959 เป็นแหล่งท่องเที่ยวในซัปโปโรที่มีรูปปั้นของศาสตราจารย์คลาร์กผู้โด่งดังจากประโยคที่ว่า “หนุ่มสาวเอย จงทะเยอทะยานเข้าเถิด” สามารถชื่นชมธรรมชาติอันกว้างใหญ่ไพศาลและทิวทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลทั้งสี่ ส่วนทุ่งลาเวนเดอร์จะบานสะพรั่งช่วงกลางเดือนกรกฎาคม! ลาเวนเดอร์กลิ่นหอมมากเลย เปิดให้ลองเก็บเกี่ยวดอกลาเวนเดอร์ด้วยตัวเองได้ด้วย
ที่อยู่: 1 Hitsujigaoka, Toyohira-ku, Sapporo-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 9:00 – 17:00 น.
ค่าเข้า: 520 เยน
การเดินทาง: เดินทางประมาณ 10 นาที โดยรถบัส จากรถไฟใต้ดินสถานี Fukuzumi สาย Toho
จุดชมวิวที่ภูเขาโมอิวะ (Mt. Moiwa)
ทิวทัศน์ที่ระดับความสูง 531 เมตร ที่เห็นจาก “จุดชมวิวที่ภูเขาโมอิวะ” เป็นทัศนียภาพยามราตรีอันงดงามที่สุดในซัปโปโร โดยสามารถรับชมเมืองซัปโปโรได้รอบถึง 360 องศา เป็นจุดชมวิวที่มีชื่อเสียงโด่งดังขนาดที่ว่าถ้ามาฮอกไกโดเมื่อไร ก็ต้องมาที่นี่เพื่อชมทิวทัศน์ยามราตรีเลยทีเดียว ข้างบนมี “ระฆังแห่งความสุข” บนจุดชมวิว ขอเชิญคู่รักมาสั่นระฆังด้วยกันสองคนและอธิษฐานขอให้มีความสุขนับจากนี้ตลอดไป
ที่อยู่: 5-3-7 Fushimi, Chuo-ku, Sapporo-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 10:30 – 21:30 น. (เดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมีนาคม เปิดทำการตั้งแต่ 11:00 น.)
ค่าเข้า: นั่งกระเช้าลอยฟ้ากับ Moriss Car แบบไปกลับราคา 1,700 เยน
การเดินทาง: เดิน 10 นาที จากสถานี “Ropeway Iriguchi” ของรถรางฮอกไกโด ก็จะถึงสถานี Moiwa Sanroku
โจซันเคฟาร์ม (Jozankei Farm)
ทัศนียภาพอันงดงามของสวนผลไม้ ที่แผ่กว้างภายใต้แสงอาทิตย์ท่ามกลางอากาศบริสุทธิ์ เมื่อมาเยือนผืนดินอันกว้างใหญ่แห่งนี้ก็จะเก็บผลไม้นานาชนิดได้ตามฤดูกาล ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ เชอร์รี่ แอปเปิ้ล องุ่น ลูกพรุน หรือว่าผลพลัม คราวนี้เรามาท้าทายกับการเก็บเชอร์รี่!
ที่อยู่: 832 Jozankei, Minami-ku, Sapporo-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 9:00 – 16:00 น. (เดือนพฤษภาคมถึงต้นเดือนพฤศจิกายน)
การเดินทาง: เดินทางประมาณ 50 นาที โดยรถยนต์ จากใจกลางเมืองซัปโปโร
สวนโอโดริ (Odori Park)
สวนสาธารณะแบบพิเศษที่มีพื้นที่สีเขียวทอดยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมืองซัปโปโร เนื่องจากที่นี่มีแปลงดอกไม้และพืชพรรณงดงามทุกหนแห่ง จึงเพลิดเพลินกับการเปลี่ยนแปลงของดอกไม้ได้ตลอดทั้ง 4 ฤดูกาล
ที่อยู่: Nishi 1-12 Odori Park, Sapporo-shi
ค่าเข้า: เดินเล่นได้ตามอิสระ
การเดินทาง: รถไฟใต้ดินสถานี Odori (สาย Tozai)
Sapporo TV Tower
ที่อยู่: Nishi 1-chome, Odori Park, Sapporo-shi, Hokkaido
เวลาทำการ: 9:00 – 22:00 น.
ค่าเข้า: ขึ้นไปที่จุดชมวิว 720 เยน
การเดินทาง: สถานี Odori สาย Tozai เดินจาก Nishi 11-chome ก็ถึงเลย
Shiroi Koibito Park
