มารยาทในการอาบน้ำสไตล์ญี่ปุ่น

ละเอียดทุกขั้นตอน

สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว วัฒนธรรมการอาบไม่ได้มีเพื่อชำระร่างกายเพียงเท่านั้น แต่การอาบน้ำคือการชำระทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งถือเป็นการเติมเต็มความสุขให้แก่ชีวิตในอีกรูปแบบหนึ่ง ควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารดีๆ และการพักผ่อนหย่อนใจ หากคุณมีโอกาสมาเยือนญี่ปุ่น ไม่ควรพลาดประสบการณ์ในโรงอาบน้ำ ทั้งแบบเซ็นโตหรือโรงอาบน้ำสาธารณะ เป็นที่อาบน้ำแบบดั้งเดิม และออนเซน หรือ บ่อน้ำพุร้อนที่ให้อารมณ์ความความหรูหรา แต่โดยมากแล้วที่โรงอาบน้ำดังกล่าวมักไม่ค่อยมีป้ายแนะนำเป็นภาษาอังกฤษ ซ้ำยังไม่ค่อยมีพนักงานสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ดังนั้นไปเยือนโรงอาบน้ำเช่นนี้โดยปราศจากข้อมูลใดๆ อาจทำให้คุณได้รับเพียงความเคอะเขินกลับมาเท่านั้น

ถึงแม้ว่าการมาญี่ปุ่นในฐานะนักท่องเที่ยวอาจทำให้รู้สึกว่าไม่น่าเป็นอะไร หากไม่ทำตามมารยาทแบบญี่ปุ่น แต่เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม ลองทำตามสไตล์ญี่ปุ่นดูแล้วจะพบความสุขในอีกรูปแบบหนึ่ง เราขอนำเสนอวิธีอาบน้ำในโรงอาบน้ำสาธารณะแบบเป็นขั้นเป็นตอนอย่างละเอียด เพื่อให้คุณได้อาบน้ำอย่างผ่อนคลายไร้กังวล

*อาจมีบางระเบียบข้อมูลต่างกันไปตามแต่ละโรงอาบน้ำ

ขั้นที่ 1 : ถอดรองเท้า

ก่อนที่จะถอดเสื้อผ้า ก็ต้องถอดรองเท้าก่อน!
การเข้าโรงอาบน้ำก็ต้องถอดรองเท้าก่อนเช่นกันเหมือนเวลาที่เข้าบ้านญี่ปุ่น ซึ่งโรงอาบน้ำส่วนมากจะมีล็อกเกอร์ให้เพื่อใช้เก็บรองเท้าแน่นอนว่าจะต้องจ่ายค่าเข้าที่ประชาสัมพันธ์ หรือที่เรียกว่าบันไดก่อน ค่อยเข้าไปใช้บริการได้ บางที่อาจมีแชมพู สบู่ ผ้าเช็ดตัวจำหน่าย เผื่อในกรณีที่ลูกค้าไม่ได้เตรียมมา แต่สำหรับออนเซนแบบไฮโซ ปกติแล้วจะเตรียมทั้งแชมพู สบู่และอื่นๆ ไว้ให้ในบริเวณห้องอาบน้ำอย่างเรียบร้อย

ขั้นที่ 2 : เปิดประตูเข้าไป

โรงอาบน้ำของญี่ปุ่น โดยทั่วไปจะแยกเป็นห้องสำหรับผู้ชายและผู้หญิง สำหรับห้องอาบน้ำแบบรวมอาจไม่ค่อยพบเห็นมากนัก โดยทั่วไปประตูทางเข้าห้องอาบน้ำจะมีม่านที่เรียกว่า”โนเร็น”เพื่อเป็นสัญลักษณ์บอกว่าห้องไหนสำหรับผู้ชาย ห้องไหนสำหรับผู้หญิง โดยม่านสีน้ำเงินจะเป็นห้องอาบน้ำชายและม่านสีแดงจะเป็นห้องอาบน้ำหญิง แต่บางที่อาจใช้ตัวอักษรคันจิเป็นสัญลักษณ์บ่งบอก เราจึงขอแนะนำให้คุณจำอักษรดังกล่าวด้วยเพื่อกันพลาด สำหรับผู้ชายจะใช้ตัวอักษร 男 (Otoko) และสำหรับผู้หญิงจะใช้ตัวอักษร 女(Onna)

ขั้นที่ 3 : ถอดเสื้อผ้า

แน่นอนว่าการอาบน้ำหรือลงแช่บ่อในสไตล์ญี่ปุ่นนั้นจะต้องถอดเสื้อผ้าออกให้หมดทุกชิ้น ดังนั้นจึงต้องถอดออกทุกชิ้นจริงๆ ห้ามเหลือสิ่งใดบนร่างกายเลยไม่ว่าจะเป็นเสื้อ กางเกง หรือแอบสวมชุดว่ายน้ำก็ตาม เพราะการลงแช่น้ำทั้งที่ยังสวมใส่เสื้อผ้าจะทำให้บ่อน้ำสกปรกได้ อย่าลืมนำเสื้อผ้าที่ถอดแล้วเก็บใส่ตู้ล็อกเกอร์เอาไว้ และสำรวจให้แน่ชัดว่าไม่ได้ทิ้งสัมภาระใดๆ ไว้บนพื้นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หากพร้อมแล้วก็หยิบผ้าเช็ดตัวผืนน้อย แล้วมุ่งสู่ห้องอาบน้ำกันเลย แล้วอย่าลืมปิดประตูห้องอาบน้ำด้วยนะ

ขั้นที่ 4 : ชำระร่างกาย

แม้ว่าคุณอาจรู้สึกเหมือนบ่อน้ำร้อนที่อยู่เบื้องหน้าร้องเรียกให้คุณรีบลงไป แต่อย่ารีบร้อนตรงดิ่งกระโดดลงไปเด็ดขาด (แน่นอนว่าห้ามกระโดดอยู่แล้ว) เพราะตามธรรมเนียมญี่ปุ่นแล้ว จะต้องชำระร่างกายให้สะอาดเสียก่อน แม้ว่าในหลายๆประเทศมักยืนอาบน้ำกัน แต่ที่ญี่ปุ่นนั้นแตกต่างออกไป คือจะนั่งอาบน้ำจากฝักบัว เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นไปโดนคนข้างๆ นำสบู่ใส่ลงบนผ้าขนหนูผืนเล็ก แล้วเช็ดตามตัว ทำความสะอาดร่างกายแล้วค่อยล้างออกจนไม่เหลือฟองสบู่หรือแชมพูทิ้งไว้ทั้งบนตัวและผ้าเช็ดตัว

ขั้นที่ 5 : ลงแช่ในบ่อ

และแล้วก็ถึงเวลาลงแช่น้ำให้สบายกายสบายใจ ผ่อนคลายตามสไตล์ญี่ปุ่น แต่ไม่ควรทำสิ่งต่อไปนี้คือ

1. ลงแช่น้ำโดยที่ยังมีฟองแชมพูและสบู่อยู่ตามร่างกาย

2. ดำน้ำ ว่ายน้ำ หรือเล่นน้ำในบ่อ

3. ทำผ้าเช็ดตัวหรือสิ่งของอื่นๆ จุ่มลงในบ่อ ควรทำผ้าวางไว้บนหัว หรือวางไว้ริมบ่อแทนโดยไม่ให้ตกลงมาในบ่อได้

ขั้นที่ 6 : ไม่ทำให้พื้นเปียก และอย่าลืมดื่มนม

เมื่อขึ้นจากบ่อน้ำแล้วก็กลับมาที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ แต่ควรจะเช็ดตัวให้เสร็จเรียบร้อยเสียก่อนตั้งแต่บริเวณทางเข้า จะได้ไม่ทำให้พื้นห้องเปียกระหว่างที่เดินไปที่ล็อกเกอร์ หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็เก็บสัมภาระจากล็อกเกอร์แล้วมุ่งหน้าไปจุดหมายถัดไป ปกติแล้วเวลาที่คนญี่ปุ่นแช่น้ำร้อนแบบนี้เสร็จ ก็มักจะดื่มนมขวดเย็นๆ กัน แน่นอนว่านี่ก็ไม่ใช่กฎหรือระเบียบอะไร แต่เราอยากให้คุณได้ลิ้มรสความสดชื่นจับใจแบบที่คนญี่ปุ่นเขาทำกัน

นำเคล็ดลับทุกขั้นตอนไปลองทำดู แล้วคุณจะได้สัมผัสกับความสุขและผ่อนคลายแบบสุดๆกับการไปโรงอาบน้ำสาธารณะ แถมยังอิ่มท้องด้วยนมเย็นๆ ที่ดื่มจนหมดเกลี้ยงไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว