วันที่ 1
การเดินทางมา Fuji-Q Highland นั้นแสนง่าย เพียงแค่นั่งรถบัส Fuji-Q Highway Bus– Resort Express จากสถานี Tokyo สถานี Shinjuku สถานี Shibuya (Mark City) หรือขึ้นจากสนามบิน Hanedaเลยก็ได้ สวนสนุกแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ Fujiyoshida จังหวัดยะมะนะชิ อยู่บริเวณฟูจิเลย ใช้เวลาในการเดินทางโดยรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมง 40 นาทีก็ถึงที่หมาย แถมยังมีบริการ wifi จึงทำให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ยิ่งนั่งรถบัสเข้าใกล้สวนสนุก Fuji-Q Highland มากเท่าไร เราก็จะได้ชมวิวฟูจิจากบนรถได้สวยงามมากขึ้นเท่านั้น หากจะมาอิ่มเอมเที่ยวให้เต็มที่ในบริเวณนี้ เราแนะนำให้มาพักที่โรงแรม Highland Resort Hotel & Spa ซึ่งตั้งอยู่หน้าสวนสนุก Fuji-Q Highland เป็นโรงแรมที่เหมาะกับการพักผ่อนหลังจากเต็มอิ่มกับการเที่ยว
จากในห้องเราสามารถมองเห็นวิวสวยงาม ไม่ว่าจะเป็นวิวสุดตระการตาของภูเขาไฟฟูจิ หรือ เครื่องเล่นสุดหวาดเสียวภายในสวนสนุก Fuji-Q Highland ที่นี่มีห้องให้เลือกหลากหลายแบบ ทั้งห้องแบบญี่ปุ่น ห้องที่ตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนน่ารัก (มีทั้งห้อง Lisa กับ Gaspard Rooms, ห้องThomas ตกแต่งด้วยตัวการ์ตูนตามธีมของห้อง) หรือจะเลือกห้องสุดหรูพิเศษที่ชั้น Grand Executive Floor ตกแต่งอย่างสวยงาม มีจุดเด่นที่สามารถมองเห็นวิวฟูจิจากหน้าต่างห้องได้
จากนั้นก็ไปเล่นเครื่องเล่นชิงช้าสวรรค์กันที่ Fuji-Q Highland กัน จากบนชิงช้าสวรรค์ก็เห็นวิวฟูจิตระหง่านอยู่เบื้องหน้าด้วย
นอกจากเครื่องเล่นแสนหวาดเสียวและบ้านผีสิงแล้ว ที่นี่ยังมีเครื่องเล่นแบบ4D ที่เรียกว่า “Fuji Airways” ซึ่งมีที่นั่งเรียงรอบจอฉายยักษ์ จำลองภาพบินชมรอบฟูจิ เป็นประสบการณ์ที่ตื่นเต้นแปลกใหม่ที่จะได้สัมผัสกับความงามของฟูจิใน 4 ฤดู ที่เก็บภาพจากกล้องโดรน ผลงานที่ฉายนี้มีดนตรีประกอบชื่อ “Mt. Fuji” ซึ่งเป็นผลงานการประพันธ์ของ Joe Hisaishi.
อีกจุดหนึ่งที่น่าสนใจและพลาดไม่ได้ก็คือบริเวณ Thomas Land ที่ตกแต่งในธีมของการ์ตูนสุดฮิตจากเกาะอังกฤษอย่าง Thomas the Tank Engine & Friends
สวนสนุกในบริเวณนี้ตกแต่งอย่างน่ารักเหมาะสำหรับครอบครัวที่มาดื่มด่ำเวลาแสนสนุกกัน สามารถขึ้นเครื่องเล่นรถไฟ Thomasได้ด้วย และยังมีรถไฟเหาะไซส์มินิ รวมถึงเขาวงกต3D และเครื่องเล่นอีกมากมายให้ได้สนุกกัน
อย่าลืมถ่ายภาพที่ Thomas’ Monument และลองชิมอาหารและของทานเล่นที่คาเฟ่และร้านอาหารในโซนนี้ซึ่งตกแต่งน่ารักๆในแบบหัวรถจักร Thomas และผองเพื่อน
แม้ว่าคุณอาจจะยังไม่รู้จักตัวการ์ตูนนี้ดี แต่รับรองได้เลยว่าคุณจะต้องหลงรักพวกเขาแน่ๆ
La Ville de Gaspard et Lisa ตั้งอยู่บริเวณฝั่งขวาของทางเข้าสวนสนุก เราสามารถไปเดินเล่นในส่วนนี้ และพบกับ Gaspard กับ Lisa ได้ด้วย ทั้งสองเป็นตัวการ์ตูนจากหนังสือนิทานสุดฮิตจากฝรั่งเศส ภายในโซนนี้ตกแต่งสไตล์ฝรั่งเศสและยังมีหอไอเฟลจำลอง ให้บรรยากาศและกลิ่นอายแบบยุโรป
หากได้ขึ้นม้าหมุนก็จะสามารถเห็นวิวงดงามของเมืองทั้งหมด ถัดจากนั้นลองแวะที่คาเฟ่ BRIOCHE ชิมขนมปังและของหวาน เมนูยอดฮิตคือขนมปังรูปฟูจิสอดไส้ครีมคัสตาร์ด
ที่ร้านขายของฝากก็สามารถซื้อสินค้าสุดน่ารักในแบบ Gaspard กับ Lisa ซึ่งมีจำหน่ายเฉพาะในสวนสนุกเท่านั้น บริเวณชั้น 2 จัดจำลองห้องศิลปะของ Georg Hallensleben ผู้วาด Gaspard กับ Lisa จะช่วยทำให้คุณได้สัมผัสกับความน่ารักของทั้งสองได้มากขึ้น และยังดูการ์ตูนของพวกเขาได้ด้วย
หากคุณรู้สึกต้องการของหวาน ต้องตรงไปร้านของหวานแล้วลองของหวานที่ทำเป็นรูปฟูจิ หรือ คุกกี้ Gaspard กับ Lisa
หลังจากดื่มด่ำความน่ารักในโซน La Ville de Gaspard et Lisa กันแล้ว ก็ไปต่อกันที่ Fujiyama Museum สถานที่ที่รวบรวมภาพวาดวิวฟูจิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานศิลปินสมัยใหม่เอาไว้ ภูเขาไฟฟูจินี้เป็นแรงบันดาลใจให้ศิลปินสร้างสรรค์ผลงานมาตั้งแต่อดีต พิพิธภัณฑ์นี้ยังจัดแสดงผลงานภาพวาดทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบัน เช่น ภาพอุคิโยะเอะของศิลปินเลื่องชื่ออย่าง Hokusai Katsushika, Hiroshige Utagawa, Yayoi Kusama เป็นต้น ที่นี่ยังมีของที่ระลึกในแบบภูเขาไฟฟูจิขายด้วย หรือจะพักผ่อนที่คาเฟ่ หรือร่วมเวิร์คชอปงานฝีมือก็ได้เช่นกัน
หลังจากสนุกกันหนึ่งวันเต็มๆแล้วก็ไปผ่อนคลายที่ Fujiyama Onsen ซึ่งอยู่ถัดไปกัน หากใครมาพักที่ Highland Resort Hotel & Spa ก็สามารถเข้าออนเซนนี้ได้ฟรี
อ่านต่อวันที่ 2
สิ่งที่จะช่วยให้ท่านเพลิดเพลินไปกับความสนุกรอบๆ ภูเขาไฟฟูจิ ได้ง่ายขึ้น
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมhttp://bus-th.fujikyu.co.jp/mtpass/
WATTENTION WRITER PROFILE
Tabea Greuner
Living and working in Japan since 2015. Always excited about discovering new places. Passion for photography, nature-lover & Japanese fashion expert. MORE ARTICLES BY THIS WRITER | ABOUT WATTENTION NINJA