เคล็ดลับความอร่อยของข้าวนีงะตะ

ปลูกด้วยอุณหภูมิเฉลี่ย 24.5 องศา ด้วยแสงแดดทอดส่องหล่อเลี้ยง และอุณหภูมิที่แปรผันตามกลางวันกลางคืน ทำให้กลายเป็นข้าวชั้นเยี่ยม

ทำไมข้าวนีงะตะจึงเป็นข้าวอันดับ 1

• ปลูกในนาข้าวที่อยู่ในพื้นที่สูงที่สุดในญี่ปุ่น: “ข้าว Uonuma Koshihikari” ได้รับขนาดนามให้เป็นข้าวเกรด A ติดต่อกันถึง
• เป็นข้าวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบรรดาผู้หญิงที่อาศัยอยู่ในโตเกียว

เคล็ดลับการหุงข้าวนีงะตะแบบไม่ต้องใช้หม้อหุง

รากฐานของอาหารญี่ปุ่น

การปลูกข้าวถือเป็นเกษตรกรรมที่ช่วยเลี้ยงดูคนญี่ปุ่นมากว่า 2,400 ปีมาแล้ว จนทำให้ที่ญี่ปุ่นมีการนำข้าวไปปรุงเป็นเมนูอาหารอันมีเอกลักษณ์มากมายหลายเมนูซึ่งรสชาติเป็นเยี่ยม ในปัจจุบันอาหารญี่ปุ่นดั้งเดิมเหล่านี้ได้แพร่ขยายเป็นกระแสไปทั่วโลก และปัจจัยของความอร่อยนี้ก็คือการใช้ข้าวคุณภาพดีที่มีรสชาติเยี่ยม แน่นอนว่าหากข้าวคุณภาพไม่ดี ก็จะทำให้อาหารอย่างซูชิรสชาติเพี้ยนไปด้วย ข้าวจึงเป็นตัวเอกประจำโต๊ะอาหารญี่ปุ่น ครั้งหน้าเมื่อทานอาหารญี่ปุ่น ขอให้ลองดื่มด่ำกว่ารสชาติชั้นเยี่ยมของข้าวญี่ปุ่นดู

ข้าวปั้น Onigiri
อาหารง่ายๆที่สามารถสัมผัสรสชาติความอร่อยของข้าวแบบสไตล์อาหารญี่ปุ่นง่ายๆ

ชุดอาหารญี่ปุ่น Wateishoku Japanese-style set menu
ชุดเมนูอาหารที่ประกอบไปด้วยทั้งข้าว ซุปมิโสะ ปลาย่าง เป็นส่วนผสมที่ลงตัวให้ได้อร่อยกับรสชาติของข้าว

ซูชิ Sushi
ความอร่อยของปลาดิบสดๆย่อมต้องมาคู่กับข้าวชั้นเลิศ ในร้านซูชิจะเรียกข้าวว่า“gin shari”

 

ตามหาข้าวนีงะตะในโตเกียวได้ที่นี่

上越の恵 田喰 TAKU 銀座店
Joetsu no Megumi Taku Ginzaten
วัตถุดิบที่ใช้หุงข้าวและทำเมนูอาหารปลา ล้วนส่งตรงจากนีงะตะ และปรุงอย่างดีโดยเชฟผู้มีประสบการณ์
เวลาทำการ: กลางวัน 11.30น. – 14.30น.(จันทร์ – เสาร์), เย็น 17.30น. – 23.00น. (จันทร์ – ศุกร์) / 17.30น. – 22.00น. (เสาร์) (ปิดวันอาทิตย์)
ที่อยู่: Ginza Puzzle Ginza 5F, 2-5-19, Ginza, Chuo-ku

上越やすだ 新橋銀座口店
Joetsu Yasuda – Shinbashi Ginza shopร้านนี้นำเสนออาหารแบบนีงะตะ ที่นี่เปิดทำการมากว่า 120 ปี
เวลาทำการ:17.30น. – 23.30น. (จันทร์ – เสาร์)(ปิดวันอาทิตย์)
ที่อยู่: Hulic G10 Building 8F, 1-4-5 Shinbashi, Minato-ku

つみき 神楽坂
Tsumiki, Kagurazaka
ร้านนี้มีเหล้าสาเกของนีงะตะสุดเลื่องชื่อ และยังมี kama-meshi (ข้าวอบหม้อ) ที่ทำจากข้าว Uonuma Koshihikari ชั้นเลิศ
เวลาทำการ:17.00น. – 23.30น. (จันทร์ – ศุกร์), 17.00น. – 23.00น. (เสาร์และวันหยุด) (ปิดวันอาทิตย์)
ที่อยู่: Rakuzan Building 3F, 4-3 Kagurazaka, Shinjuku-ku

Chisou Konya มาที่นี่ต้องไม่พลาดเมนู kaiseki ที่มีเนื้อวากิวของนีงะตะเสิร์ฟ
เวลาทำการ:17.00น. – 23.30น. (จันทร์ – ศุกร์), 17.00น. – 23.00น. (เสาร์และวันหยุด)
ที่อยู่: Clair Kagurazaka III 1F, 3-1 Kagurazaka, Shinjuku-ku

豪農 五十嵐邸銀座
Gonou Igarashitei Ginza
ข้าวที่หุงในหม้อดินเผาอันเต็มไปด้วยวัตถุดิบที่คัดสรรอย่างดี ทานพร้อมสาเก
เวลาทำการ: กลางวัน 11.30น. – 14.00น., เย็น 17.00น. – 23.30น. (จันทร์ – ศุกร์) (ปิดเสาร์และอาทิตย์) ที่อยู่: Kumo Building B1, 7-16-21 Ginza, Chuo-ku

新潟食楽園
Niigata Shokurakuenชุดอาหารกลางวันที่มีข้าวรสเยี่ยมและปลาตามฤดูกาล
เวลาทำการ: กลางวัน 11.00น. – 14.30น.(จันทร์ – ศุกร์) 11.00น. – 15.30น. (เสาร์ – อาทิตย์) เย็น 17.00น. – 22.00น. (จันทร์ – เสาร์) /17.00น. – 21.30น. (อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์)

ที่อยู่: 4-11-1Jingumae, Shibuya-ku

มาทำความรู้จักนีงะตะกัน

นีงะตะเป็นจังหวัดที่อยู่ติดฝั่งทะเลญี่ปุ่น สามารถเดินทางจากโตเกียวไปได้ โดยนั่งรถไฟชินคันเซนประมาณ 2 ชั่วโมง จังหวัดนีงะตะเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเมืองแห่งหิมะ จึงมีชื่อเสียงด้านลานสกี ผู้คนก็จะนิยมมาชมดอกซากุระในช่วงฤดูใบไม้ผลิ รวมถึงวิวทุ่งนาสุดอันกว้างใหญ่ที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดก็เป็นทิวทัศน์ที่ชาวญี่ปุ่นหลงใหลเป็นอย่างมาก ซึ่งผู้ที่มาเยือนจะสามารถดื่มด่ำบรรยากาศทุ่งนาอันเปลี่ยนไปตามแต่ละฤดูกาล ทุ่งนาที่เรียงรายไล่ระดับกันอย่างน่าตกตะลึงแบบนี้เรียกว่า tanada ข้าวที่ปลูกได้ที่นี่ยังถูกนำไปใช้หมักเหล้าสาเกอีกด้วย จึงเป็นเสน่ห์ที่ผู้รักการทานปลาสดร่อย หรือชอบดื่มสาเก แม้กระทั่งรักการทานข้าว ไม่ควรพลาดที่จะมาเยือนนีงะตะ

ท่องเที่ยวจังหวัดนีงะตะ

นาขั้นบันไดที่ Hoshi-toge
นาขั้นบันไดนี้เป็นที่รู้จักกันในนามว่า senmaida (千枚田) หรือก็คือ “นาพันทุ่ง” ที่นี่ถูกจัดให้อยู่หนึ่งใน 100 สถานที่ในญี่ปุ่นที่ต้องไปเยือน นอกจากภูมิทัศน์ทุ่งนาที่จะเปลี่ยนไปตามฤดูต่างแล้ว ยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกสุดประทับใจอีกด้วย

ปราสาท Takada
ปราสาทแห่งนี้สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1614 เป็นบ้านของลูกชายคนที่ 6 ของ Tokugawa Ieyasu มีต้นซากุระล้อมสูงตระหง่าน เรียงรายรอบปราสาท ทำให้เป็นจุดชมซากุระอันเลื่องชื่อ ในฤดูร้อนบ่อน้ำรอบปราสาทจะถูกปกคลุมไปด้วนดอกบัวบานสะพรั่ง

สวน Toki-no-mori

สนุกกับกิจกรรมหิมะ
ที่นี่เป็นที่รู้จักกันว่ามีลานหิมะที่มีความสูงชัน จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกในการมาเล่นหิมะ โดยเฉพาะที่ Gala Yuzawa ซึ่งมีเส้นทางถึงกว่า 15 ให้ได้มาท้าทายฝีมือกัน อีกที่หนึ่งคือที่ Naeba ซึ่งมีบริการสปา และยังเป็นที่การจัดงาน Fuji Rock Festival อันเป็นงานสุดเลื่องชื่ออีกด้วย

เที่ยวพิพิธภัณฑ์สาเก

ในบริเวณสถานี Echigo-Yuzawa คุณสามารถลองชิมสาเกกว่า 100 ประเภทได้ที่ Ponshukan (ぽんしゅ館越後湯沢店) นอกจากนี้ยังมีอนเซนสาเกให้ลองแช่ให้ผ่อนคลายด้วย

มาทำ Senbei กัน

Sasadango (笹団子)

นี่คืออาหารสุดเลื่องชื่อ ทำจากโมจิและถั่วแดง ห่อด้วยใบไผ่

Tare-katsu Donburi (タレカツ丼)

Matsudai Shibatoge Onsen Unkai
โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ความสูง 400 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และยังมีบริการอนเซนกลางแจ้ง ที่คุณสามารถชมวิวภูเขาทิวเขาUonuma และวิวนาขั้นบันได หากโชคดีคุณก็จะสามารถดื่มด่ำกับวิวทะเลหมอก ราวกับถูกโอบอุ้มด้วยทะเลหมอกนั้นอีกด้วย

Kirinzan Onsen Yukitsubaki-no-Yado Furusawaya

เรียวกังแห่งนี้ดำเนินกิจการมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1935 มีแม่น้ำ Agano ไหลพาดผ่านเรียวกัง แถมยังมีวิวไหล่เขา Kirin อีกด้วย ที่นี่มีห้องพักแค่เพียง 15 ห้องเท่านั้น รับรองได้เลยว่าทุกห้องพักจะทำให้คุณได้ผ่อนคลายด้วยวิวสุดแสนวิเศษของธรรมชาติที่ห้อมล้อมอยู่

Osado Onsen Hotel Osado
โรงแรงแห่งนี้ตั้งอยู่ที่แหลม Kasuga มีบ่ออนเซนกลางแจ้งที่สามารถเห็นวิวธรรมชาติอย่างกว้างขวาง เพลิดเพลินและผ่อนคลายกับการแช่อนเซนที่โอบล้อมไปด้วยวิวชั้นเลิศ จนไม่อยากจะลุกไปไหน แถมที่นี่ยังขึ้นชื่อเรื่องอาหารชั้นเลิศซึ่งใช้วัตถุดิบคุณภาพเยี่ยมจากเกาะ Sado